อุตสาหกรรมการบริการอาหารสามารถช่วยพัฒนาระบบการตรวจสอบย้อนกลับอาหารได้อย่างไร

ลูกค้าสมควรได้รับบริการที่ดีกว่านี้ โดยผู้ให้บริการในอุตสาหกรรมการบริการอาหารควรต้องพัฒนาความร่วมมือกับคู่ค้า เพื่อทำให้การชี้เป้าในการกำจัดอาหารปนเปื้อนทำได้ง่ายขึ้น และลดผลกระทบให้เหลือน้อยที่สุด โดยกระบวนการ 3 อย่างที่สำคัญที่ผู้ประกอบการด้านการบริการอาหารสามารถทำร่วมกันเพื่อพัฒนากระบวนการตรวจสอบย้อนกลับ และเพิ่มความปลอดภัยทางด้านอาหาร

การป้องกัน

ระบบข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและสถานที่ผลิตที่เป็นมาตรฐานเดียวกันจะช่วยให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ และสร้างการทำงานที่เป็นรูปแบบเดียวกันในการเก็บข้อมูลสินค้า ที่ช่วยในการตรวจสอบย้อนกลับสินค้าในกระบวนการขนส่ง แม้จะแค่ระดับเดียว (One-Up/One-Down) ก็ตาม ข้อมูลภายในและกระบวนการต่างๆ ที่แต่ละบริษัทใช้ในการติดตามสินค้าจะถูกนำไปควบรวมกับระบบที่ใหญ่ขึ้น เพื่อใช้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างคู่ค้า ซึ่งจะช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถร่วมมือกันในการบ่งชี้และคัดแยกสินค้าที่ไม่มีคุณภาพในระบบเพื่อเรียกคืน

ปกป้อง

ด้วยการใช้โปรแกรมการตรวจสอบย้อนกลับสินค้า บริษัทต่างๆ ไม่เพียงแต่ปกป้องผู้บริโภคจากความเสี่ยงต่างๆ แล้ว ยังช่วยปกป้องชื่อเสียงของบริษัทจากความสูญเสียที่ร้ายแรง รายงานของมหาวิทยาลัยโอไฮโอ สเตท ระบุว่าต้นทุนของสินค้าที่เรียกกลับในสหรัฐอเมริกาสูงกว่า 55 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ซึ่งตัวเลขดังกล่าว ยังไม่ได้ประเมินถึงผลกระทบในระยะยาว จากการเสื่อมเสียงชื่อเสียงของบริษัท โดยแม้ว่าผู้ผลิตจะแสดงความรับผิดชอบในด้านค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการระบาดแล้วก็ตาม แต่แบรนด์และร้านอาหารที่เกี่ยวข้องกับการระบาดก็อาจจะถูกมองในแง่ลบจากสายตาผู้บริโภค

ประเมิน

ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการบริการอาหารสามารถดำเนินการเชิงรุกในการร่วมมือกับผู้ผลิตได้มากขึ้น เพื่อกระตุ้นในเกิดความร่วมมือให้เกิดการทำงานบนมาตรฐานเดียวกันและรวบรวมรายละเอียดข้อมูลสินค้า การจัดเก็บ และการกระจายสินค้าให้ละเอียดมากขึ้น เพื่อพัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับ ด้วยความร่วมมือนี้ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถประเมินถึงมาตรการที่ควรทำในการเรียกคืนสินค้า และสามารถจัดการซ้อมเรียกคืนสินค้าได้เป็นประจำ เพื่อไม่ให้เกิดความงุนงง

ขอขอบคุณ : www.foodfocusthailand.com